ในโลกที่การดูแลตัวเองกลายเป็นประเด็นสำคัญ ผู้สนใจความสวยความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เพียงแค่แสวงหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและแต่งหน้าที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น พวกเขาเจาะลึกเข้าไปในโลกของรายการส่วนผสม มองหาคำมั่นสัญญาที่เข้าใจยากของ "Clean Beauty" เทรนด์ใหม่นี้เกิดจากความต้องการ ผลิตภัณฑ์ความงามที่ให้โปร่งใสในส่วนผสม มีปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Milieu Insight บริษัทวิจัยตลาดที่ได้รับรางวัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ทำการสำรวจเชิงลึกทั่วประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เผยให้เห็นข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับความชอบและแนวทางปฏิบัติของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องความงามในภูมิภาคนี้
เกือบ 6 ใน 10 ของคนในประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์พิจารณาถึงรายละเอียดส่วนผสมเมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง
เมื่อพูดถึง Clean Beauty ผู้บริโภคมากกว่าครึ่ง (58%) ในประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ต่างเจาะลึกรายละเอียดของส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง มันไม่ใช่แค่เรื่องแพคเก็จจิ้งเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจอย่างแท้จริงถึงสิ่งที่พวกเขาจะทาไปบนผิวของพวกเขา ลืมบรรจุภัณฑ์ฉูดฉาดและการรับรองจากคนดังไปได้เลย ผู้บริโภคต้องการทราบรายละเอียดที่อยู่ในขวดขวดโหล หรือกระปุกเหล่านั้น
ช่องว่างระหว่างการรับรู้และการนำผลิตภัณฑ์ "Clean Beauty" มาใช้
แม้ว่าผู้บริโภคในประเทศเหล่านี้จะได้ยินแนวคิด "Clean Beauty" ได้ถึง 51% แต่การเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ Clean Beauty จริงๆ มีเพียง 31% ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าความคุ้นเคยกับคำนี้จะอยู่ในระดับสูง แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการส่งเสริมให้นำไปใช้และบูรณาการเข้ากับกิจวัตรด้านความงามได้อีก นอกจากนี้ ยังเป็นการย้ำเตือนด้วยว่าแคมเปญการให้ความรู้และการรับรู้สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคได้อย่างมาก และช่วยขับเคลื่อนขบวนการ Clean Beauty ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน
ผู้สนใจในความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังหลีกเลี่ยงส่วนผสมเฉพาะบางอย่างในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ส่วนผสมที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ความงามถูกจัดอยู่ในรายชื่อ "ไม่เลือกซื้อเลย" คือ แอลกอฮอล์ (54%) พาราเบน (29%) น้ำหอม (30%) และซัลเฟต/SLS (21%) จากสถิตินี้ เผยให้เห็นถึงความตั้งใจของคนที่สนใจความงามที่จะหลีกเลี่ยงสารที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง โดยเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัย สำหรับสภาพผิวที่ดี เห็นได้ว่าผู้บริโภคเริ่มเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขานำไปใช้กับร่างกาย
7 ใน 10 ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ Clean Beauty มีความปลอดภัยและเหนือกว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามทั่วไป
เครื่องมือสำรวจออนไลน์(online survey tools) แสดงข้อมูลความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ Clean Beauty มีเพิ่มมากขึ้น โดยผู้บริโภคจำนวนมาก 71% เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ Clean Beauty ไม่เพียงปลอดภัยกว่าเท่านั้น แต่ยังเหนือกว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามทั่วไปอีกด้วย การรับรู้ที่เปลี่ยนไปนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมความงาม ไม่ใช่แค่การติดตามเทรนใหม่ๆเท่านั้น แต่เป็นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวม
ผู้บริโภคชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 66% ให้ความสำคัญกับส่วนผสมจากธรรมชาติ
เมื่อพูดถึงการซื้อผลิตภัณฑ์ 'Clean Beauty' ผู้บริโภคชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับส่วนผสมจากธรรมชาติ (66%) พวกเขายังให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (43%) ส่วนผสมจากพืช (28%) บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน (21%) และตัวเลือกที่ปราศจากความโหดร้าย (cruelty-free) (21%) ข้อพิจารณาเหล่านี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่กว้างขึ้นต่อหลักปฏิบัติด้านจริยธรรมและความยั่งยืน โดยเน้นว่าสำหรับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Clean Beauty ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์เท่านั้น มันเกี่ยวกับระบบนิเวศทั้งหมดที่อยู่รอบตัวพวกเขา ข้อมูลจากการสำรวจผ่านเครื่องมือสำรวจออนไลน์(online survey tools)
การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในอาณาจักรแห่งความงาม
โดยสรุป ข้อมูลจาก เครื่องมือสำรวจออนไลน์(online survey tools) บ่งบอกว่า การเปลี่ยนแปลงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปสู่ Clean Beauty ยังไปได้อีกนานและจะขยายไปวงกว้าง ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้บริโภคมองส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัย และความยั่งยืน เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทาบนผิว Clean Beuaty จึงมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการกำหนดภูมิทัศน์ความงามของภูมิภาค ไม่ใช่แค่การดูดีเท่านั้น แต่เป็นการตัดสินใจเลือกที่ยกระดับความเป็นอยู่ส่วนบุคคลและช่วยให้โลกดีขึ้น
ระเบียบวิธีจัดทำ: การศึกษาเชิงปริมาณดำเนินการผ่านชุมชนการสำรวจที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Milieu Insight โดยมีจำนวนชุมชนละ N=500 รายในประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ (โดยรวม N=1,500 คน) ข้อมูลนี้เป็นตัวแทนของประชากรผู้ใหญ่ทางออนไลน์ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป งานภาคสนามได้ดำเนินการในวันที่ 27 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2023
Clean Beauty หรือความงามแบบคลีนๆของคนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ในโลกที่การดูแลตัวเองกลายเป็นประเด็นสำคัญ ผู้สนใจความสวยความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เพียงแค่แสวงหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและแต่งหน้าที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น พวกเขาเจาะลึกเข้าไปในโลกของรายการส่วนผสม มองหาคำมั่นสัญญาที่เข้าใจยากของ "Clean Beauty" เทรนด์ใหม่นี้เกิดจากความต้องการ ผลิตภัณฑ์ความงามที่ให้โปร่งใสในส่วนผสม มีปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Milieu Insight บริษัทวิจัยตลาดที่ได้รับรางวัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ทำการสำรวจเชิงลึกทั่วประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เผยให้เห็นข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับความชอบและแนวทางปฏิบัติของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องความงามในภูมิภาคนี้
เกือบ 6 ใน 10 ของคนในประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์พิจารณาถึงรายละเอียดส่วนผสมเมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง
เมื่อพูดถึง Clean Beauty ผู้บริโภคมากกว่าครึ่ง (58%) ในประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ต่างเจาะลึกรายละเอียดของส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง มันไม่ใช่แค่เรื่องแพคเก็จจิ้งเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจอย่างแท้จริงถึงสิ่งที่พวกเขาจะทาไปบนผิวของพวกเขา ลืมบรรจุภัณฑ์ฉูดฉาดและการรับรองจากคนดังไปได้เลย ผู้บริโภคต้องการทราบรายละเอียดที่อยู่ในขวดขวดโหล หรือกระปุกเหล่านั้น
ช่องว่างระหว่างการรับรู้และการนำผลิตภัณฑ์ "Clean Beauty" มาใช้
แม้ว่าผู้บริโภคในประเทศเหล่านี้จะได้ยินแนวคิด "Clean Beauty" ได้ถึง 51% แต่การเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ Clean Beauty จริงๆ มีเพียง 31% ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าความคุ้นเคยกับคำนี้จะอยู่ในระดับสูง แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการส่งเสริมให้นำไปใช้และบูรณาการเข้ากับกิจวัตรด้านความงามได้อีก นอกจากนี้ ยังเป็นการย้ำเตือนด้วยว่าแคมเปญการให้ความรู้และการรับรู้สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคได้อย่างมาก และช่วยขับเคลื่อนขบวนการ Clean Beauty ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน
ผู้สนใจในความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังหลีกเลี่ยงส่วนผสมเฉพาะบางอย่างในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ส่วนผสมที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ความงามถูกจัดอยู่ในรายชื่อ "ไม่เลือกซื้อเลย" คือ แอลกอฮอล์ (54%) พาราเบน (29%) น้ำหอม (30%) และซัลเฟต/SLS (21%) จากสถิตินี้ เผยให้เห็นถึงความตั้งใจของคนที่สนใจความงามที่จะหลีกเลี่ยงสารที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง โดยเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัย สำหรับสภาพผิวที่ดี เห็นได้ว่าผู้บริโภคเริ่มเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขานำไปใช้กับร่างกาย
7 ใน 10 ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ Clean Beauty มีความปลอดภัยและเหนือกว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามทั่วไป
เครื่องมือสำรวจออนไลน์(online survey tools) แสดงข้อมูลความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ Clean Beauty มีเพิ่มมากขึ้น โดยผู้บริโภคจำนวนมาก 71% เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ Clean Beauty ไม่เพียงปลอดภัยกว่าเท่านั้น แต่ยังเหนือกว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามทั่วไปอีกด้วย การรับรู้ที่เปลี่ยนไปนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมความงาม ไม่ใช่แค่การติดตามเทรนใหม่ๆเท่านั้น แต่เป็นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวม
ผู้บริโภคชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 66% ให้ความสำคัญกับส่วนผสมจากธรรมชาติ
เมื่อพูดถึงการซื้อผลิตภัณฑ์ 'Clean Beauty' ผู้บริโภคชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับส่วนผสมจากธรรมชาติ (66%) พวกเขายังให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (43%) ส่วนผสมจากพืช (28%) บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน (21%) และตัวเลือกที่ปราศจากความโหดร้าย (cruelty-free) (21%) ข้อพิจารณาเหล่านี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่กว้างขึ้นต่อหลักปฏิบัติด้านจริยธรรมและความยั่งยืน โดยเน้นว่าสำหรับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Clean Beauty ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์เท่านั้น มันเกี่ยวกับระบบนิเวศทั้งหมดที่อยู่รอบตัวพวกเขา ข้อมูลจากการสำรวจผ่านเครื่องมือสำรวจออนไลน์(online survey tools)
การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในอาณาจักรแห่งความงาม
โดยสรุป ข้อมูลจาก เครื่องมือสำรวจออนไลน์(online survey tools) บ่งบอกว่า การเปลี่ยนแปลงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปสู่ Clean Beauty ยังไปได้อีกนานและจะขยายไปวงกว้าง ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้บริโภคมองส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัย และความยั่งยืน เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทาบนผิว Clean Beuaty จึงมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการกำหนดภูมิทัศน์ความงามของภูมิภาค ไม่ใช่แค่การดูดีเท่านั้น แต่เป็นการตัดสินใจเลือกที่ยกระดับความเป็นอยู่ส่วนบุคคลและช่วยให้โลกดีขึ้น
ระเบียบวิธีจัดทำ: การศึกษาเชิงปริมาณดำเนินการผ่านชุมชนการสำรวจที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Milieu Insight โดยมีจำนวนชุมชนละ N=500 รายในประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ (โดยรวม N=1,500 คน) ข้อมูลนี้เป็นตัวแทนของประชากรผู้ใหญ่ทางออนไลน์ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป งานภาคสนามได้ดำเนินการในวันที่ 27 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2023
