ในช่วงต้นปี 2563 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบกับชีวิตในหลาย ๆ ด้านให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากที่ผู้คนจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัวเพื่อป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคมากที่สุดแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาได้ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายกันมากขึ้นด้วยนะ
จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่า ในหลาย ๆ หมวดหมู่ที่เราเคยจับจ่ายใช้สอยกันในยามปกตินั้น แค่เพียง1 เดือนที่ผ่านมานี้เอง คนไทยได้ใช้จ่ายในรายการน้อยลงแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกกิจกรรมที่นอกบ้านทั้งหลาย ทั้งการดูหนัง,ร้องคาราโอเกะ ไปท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ การเที่ยวกลางคืน ทานข้าวนอกบ้าน รถสาธารณะต่าง ๆ
สาเหตุที่ผู้คนในไทยใช้จ่ายน้อยลงในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ น่าจะเกิดมาจากหลาย ๆ อย่าง อาจเป็นเพราะ คนไม่ค่อยมั่นใจในสภาพเศรษฐกิจของไทยตอนนี้ กลัวรายจ่ายจะมากไปกว่ารายรับ หลายคนคงเห็นเห็นข่าวบริษัทปิดตัว เลิกจ้างพนักงาน หรือปรับลดเงินเดือนกันออกมาไม่เว้นแต่ละวัน คนจะเอาความมั่นใจจากไหนมาใช้จ่ายกันหล่ะ แม้หลายคนจะได้ทำงานที่บ้านอะ ถือว่าประหยัดค่าเดินทาง แต่ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนบ้านผ่อนรถต่าง ๆ ก็ยังคงต้องจ่ายอย่างต่อเนื่องอยู่นะ นอกจากเก็บเนื้อเก็บตัวแล้ว ช่วงนี้หลาย ๆ คนเขาก็เลยเก็บออมเงินกันไว้ก่อนนั่นแหละเรายังคงต้องใช้ชีวิตกันต่อไปมีเงินไว้ให้อุ่นใจดีกว่า และอีกสาเหตุก็คงเป็นเพราะช่วงนี้ออกมานอกบ้านเมื่อไหร่ มองไปทางไหนก็ซบเซา เงียบเหงาไปหมด โรงเรียน/มหาลัยก็ปิด สถานบริการต่าง ๆ ก็หยุดพัก ธุรกิจการท่องเที่ยวที่เคยเป็นรายได้หลักทางหนึ่งของไทยก็ชะงักไปแล้วหล่ะ คนต่างชาติไม่ค่อยเข้ามาเที่ยวแล้ว แม้แต่คนไทยเองก็ยังใช้จ่ายไปกับเรื่องนี้น้อยลงอีกใคร ๆ ก็เก็บตัวทั้งนั้น เงินหมุนเวียนในประเทศเองก็ดูไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ผู้คนก็ยิ่งไม่กล้าใช้จ่ายเข้าไปใหญ่เลย แต่อย่างไรก็ตามคนเราต้องมีหวังเสมอ เรายังคงเชื่อมั่นเหมือนเดิมว่าสถานการณ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นแหละ พอเชื้อโรคหายไปคนจะกลับมาใช้ชีวิตกันตามเดิม การจับจ่ายใช้สอยก็คงจะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน .. ✌️