เริ่มต้นปี 2563 มาได้เพียง 2 เดือน แต่ประเทศไทยกลับพบเจอกับเหตุการณ์ระทึกขวัญมากมาย ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2563 ที่มีผู้บุกเข้าห้างโรบินสัน ที่จ.ลพบุรีแล้วกราดยิงผู้บริสุทธิ์เพื่อชิงทอง จากนั้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เหตุการณ์กราดยิงที่สะเทือนขวัญอีกครั้งเกิดที่ห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และอีกไม่ถึงสัปดาห์วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ในพื้นที่จุฬา ซอย10 กรุงเทพฯ หนุ่มใหญ่อายุ 48 ปี เกิดความเครียดรัวกระสุนกว่า 40 นัด แต่โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และในวันเดียวกันนี้เองที่ จ.นครปฐม มีผู้ชายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มพร้อมฉุดภรรยาเจ้าของบ้านหนีไป ถัดมาอีกเพียง 2 วัน ชายวัยกลางคนที่จ.บุรีรัมย์ เกิดความเครียดยิงปืนขึ้นฟ้ากว่า 30 นัด และล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ชายหนุ่มก่อเหตุยิงแฟนสาวดับกลางห้างเซนจูรี่ จ.กรุงเทพฯ จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่าในเวลา เพียง 2 เดือนมีคดีสะเทือนขวัญเกี่ยวกับอาวุธปืนมาแล้วถึง 6 คดีด้วยกัน คุณคิดเห็นอย่างไรล่ะ คิดว่าคนทั่วไปจะมีความกังวลกันแค่ไหนว่าเหตุการณ์กราดยิงในไทยที่เคยเกิดจะเกิดขึ้นได้อีก
สมาชิกในครอบครัวมิลยู จำนวน 15,359 คน พบว่า คนมากกว่า 80% ล้วนมีความกังวลว่าเหตุการณ์กราดยิงในไทยจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้ สำหรับผู้หญิงมีถึง 90% เลยที่เดียวที่มีความกังวล ส่วนผู้ชายเองมีแค่เพียง 18% เท่านั้นที่ไม่มีความกังวล จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่เขามีความกังวลด้วยกันทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะ คดีแบบนี้ดูไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเกิดในบ้านเรา แต่มันดันเกิดขึ้นมาแล้วยังมาเกิดแบบต่อ ๆ กันในช่วงเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น และคดีส่วนใหญ่ดันเกิดจากการเป็นคนธรรมดาแต่มีอาวุธปืนในครอบครอง (เหมือนกับว่าสมัยนี้คนหาปืนกันได้ง่ายกว่าหน้ากากอนามัยเสียอีก) ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละคนมีลักษณะของการก่อเหตุที่เห็นแล้วได้แต่บอกว่าช่างไม่มีความเกรงกลัวกฎหมายเอาเสียเลย
เอาหล่ะ ถ้าเกิดเหตุขนาดนี้แล้วยังคงไม่มีใครออกมาตรการรักษาความปลอดภัย/กฎหมายที่สร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตให้กับประชาชนได้ เราก็ต้องรักษาเนื้อรักษาตัว ดูแลความปลอดภัยของตัวเองให้ดี ๆ นะ ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง!